หยุดคิดถึง... TANKARD!!!

By Metal Savage

การจะจดจำสิ่งใดให้ได้อย่างยั่งยืน...ยาวนาน ปัจจัยหลักคงหาใช่เฉพาะแค่เรื่องของความสามารถจากมันสมองแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ

หากแต่สิ่งที่คู่ควรแก่การรำลึกถึงนั้น ก็ย่อมต้องมีส่วนสำคัญอยู่ไม่น้อยเช่นกัน... ในโลกแห่งดนตรีเมตัล ก็แทบไม่ต่างจากการใช้ชีวิตของ

มนุษย์ปุถุชน ที่มีทั้งการเกิด... แก่... ดับสูญ วงดนตรีวงใดก็ตาม ที่ถือกำเนิด... อยู่รอด... และไม่มีท่าทีของการล่มสลาย จึงเป็นสิ่งที่น่า

ยกย่อง... เทิดทูนเอาไว้เป็นที่สุด ซึ่งถ้าจะหาวงใดที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ณ ห้วงเวลานี้ ก็คงต้องนับรวมเยอรมันแธรชที่ชื่อ Tankard เอาไว้

ในนั้นด้วย เพราะว่าไปแล้ว Tankard ก็คือหนึ่งในวงดนตรีเมตัลชั้นเยี่ยม ที่เพียบพร้อมแก่การจดจำ... มีผลงานออกมาให้เราได้เสพ...ได้รำลึก

ถึงอยู่โดยตลอดนั่นเอง

คอนเสิร์ต Tankard: Live in Bangkok ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ จึงนับได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งน่าจะสร้าง

ความปิติให้กับเหล่าแธรชเชอร์ในบ้านเราอย่างมิอาจปฏิเสธ ข่าวคราวของงาน...ที่เริ่มโปรโมตกันมาตั้งแต่ปีกลาย จึงถือเป็นการโหมโรงให้

กับเหล่าเมตัลเฮด...ชนชั้นโอลด์สกูลแธรช ทั้งรุ่นมินิตัวจิ๋วไปจนถึงรุ่นใหญ่ลายครามชนิดที่หัวใจพองโตไปตามๆกัน เพราะนับแต่วินาทีแรกที่

คำว่า Tankard จะมาเยือนเมืองไทยกระทบโสต! ก็ทำให้หลายคนเส้นโลหิตสูบฉีดไม่เป็นจังหวะ โดยเฉพาะกับคนที่ฟังเพลงเมตัลกันมา

ตั้งแต่ยุค 80s แล้ว มันเหมือนการถูกกระชากวิญญาณจากช่วงวัยคะนองแห่งดนตรีแธรชเมตัลอันบ้าคลั่งให้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง ยิ่งกับเหล่า

สาวกพันธุ์แท้ ที่เคยได้สัมผัสผลงานของวงกันมาแต่อ้อนแต่ออก คงยากยิ่งที่จะหาคำพูดใดมาเปรียบเปรย หรือพร่ำพรรณาถึงความสุขใจอัน

เปี่ยมล้นเหล่านั้นได้...

ทุกวันนี้คงจะสายเกินไปเสียแล้วนะครับ หากจะเพิ่งมาไล่เรียงประวัติความเป็นมาของเยอรมันแธรชเมตัลระดับ Tankard ที่ก่อตั้งวงมาตั้งแต่

ปี’82! จนถึงปัจจุบันก็ 29 ปีเข้าไปแล้ว... 14 อัลบัมเต็มนั้นการันตีถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้อย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องบอก

เลยด้วยซ้ำ ว่าวงนี้เล่นดนตรีประเภทใดหรือมีดีแค่ไหน ภาพลักษณ์ของ Tankard ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ซ่า...บ้า...ระห่ำนั้นค่อนข้าง

จะแตกต่างจาก 3 หัวหอกจากเยอรมนีอย่าง Sodom, Kreator หรือ Destruction ทั้งๆที่เป็นวงร่วมรุ่นร่วมยุคเดียวกัน และถึงแม้จะไม่ใช่วง

ที่ทรงอิทธิพลให้กับรุ่นหลัง เทียบเท่า 3 วงข้างต้น แต่คงพูดได้ไม่เต็มปากว่ารู้จักแวดวงเยอรมันแธรชแตกฉานดีพอ หากไม่เอ่ยถึง Tankard

... คราใดก็ตามเมื่อกล่าวถึงแธรชเมตัลจากดินแดนแห่งนี้

หลายปีก่อนผมรู้จักวงนี้จากเทปม้วนหนึ่ง... Morning After น่าจะเป็นผลงานแรก ที่ทำให้คนฟังเพลงในบ้านเราได้สัมผัสกับ Tankard ไล่

เลี่ยกันกับวิดีโอแสดงสด Open All Night ที่มีร้านหนึ่งละแวกประตูน้ำก็อปปีออกมาขาย ถ้าย้อนไปดู ค.ศ. ที่ผลงานทั้ง 2 ชิ้นนี้รีลีสออก

มา... ปี ’88 และ’90 นั้น บอกอายุขัยที่ยาวนานยิ่ง แต่มันได้เปิดหูเปิดตาให้กับเมตัลเฮดเลือดไทยคนหนึ่ง (หรืออีกหลายๆคน) ได้เดินตาม

ครรลองที่ควรจะไขว่คว้า... ท่ามกลางความหลากหลายของดนตรีเมตัลมากสายพันธุ์ Tankard คือหนึ่งในกองเทปพะเนิน ที่แยกหมวดกลุ่ม

เอาไว้ แธรชเมตัลคือหนึ่งแขนงในโลก เช่นเดียวกับ Tankard คือหนึ่งในดนตรี “แธรช เมตัล” ความล่าช้าของแวดวงในบ้านเราอาจทำให้คน

ฟังเมตัลยุคนั้น พลาดการรู้จักวงนี้มาตั้งแต่อัลบัม Zombie Attack’86 หรือ Chemical Investion’87 แต่มันก็หาใช่อุปสรรคไม่! หากคิดที่จะ

ย้อนกลับไปไล่ล่า... ใครเล่าจะคาดคิดว่าชื่อของ Tankard จะอยู่ค้ำฟ้ามาจนถึงปัจจุบัน... ยิ่งไม่เคยคิดเลยว่า จากเทปเพียงม้วนเดียว จะผัน

กลายเป็นแผ่นเสียงนับจำนวนยาก ผมมั่นใจว่าหลายคนคงเป็นเช่นนั้น... และคงมีผู้ที่สะสมผลงานของวงนี้อยู่ทั่วโลก

ในอดีตผลงานของ Tankard ค่อนข้างจะหาฟังยากในบ้านเรานะครับ เพราะไม่มีสังกัดลิขสิทธิ์ผลิตฟอร์แมตใดออกมาขายเลย นอกจากอัลบัม

Morning After ที่เป็นเทปของ Peacock กับม้วนวิดีโอก็อปปีแล้ว อื่นๆ ก็เช่นเทปรวมเพลง Hair of the Dog ส่วนผลงานของวงในช่วงต้น

ยุค 90s ที่ไม่ถึงกับโด่งดังแต่กลับมีดนตรีที่เล่นกันได้อย่างเมามันมาก อาทิ Stone Cold Sober หรือ Two Faced นั้น ก็ถูกก็อปปีโดยเทป

ผีเกรดต่ำที่ใช้กระดาษรูปถ่ายมาทำเป็นปก ถ้าดูจากประวัติความเป็นมาของ Tankard กับคนฟังเพลงเมตัลบ้านเราแล้ว จะเห็นได้อย่าง

ชัดเจนเลยว่า วงนี้ไม่ใช่เมนสตรีมอย่าง Metallica, Anthrax หรือ Megadeth แน่ๆ โดยเฉพาะในยุคสมัยที่ยังไม่มีอินเตอร์เนตใช้ การจะหา

ผลงานใดๆของวงมาฟังก็ลำบากยิ่ง และคงต้องอาศัยนิตยสารจากต่างประเทศสำหรับดูรูปภาพ กลุ่มก้อนของคนฟังก็คือเหล่าแธรชเชอร์ตัวจริง

ที่เสาะแสวงหางานแปลกๆ และรู้จักขวนขวายเท่านั้น โชคยังดีที่ผลงานอย่าง Morning After นั้น จัดเป็นอัลบัมระดับมาสเตอร์พีสที่มีเพลง

เจ๋งๆอยู่เพียบ และยังแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของวงได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นปกอัลบัม... ภาพของเมตัลเฮดเมาหยำเปกับห้องหับ

เละเทะยุ่งเหยิง รวมทั้งดนตรีเมามันตามสูตร Alcoholic Thrash Metal ที่วงริเริ่มมาตั้งแต่งานเดโม ก็ยิ่งถูกตอกย้ำอย่างเด่นชัด และกลาย

เป็นบรรทัดฐานให้พวกเขายึดเป็นแนวทางหลักในผลงานชิ้นต่อๆมา นอกจากนี้อัลบัม Hair of the Dog ที่เป็นงานคอมพิเลชัน ก็อัดเพลง

เด็ดๆในยุคแรกเอาไว้ครบครัน กอปรกับการได้เสพภาพการแสดงสดของวงจากวิดีโอ Open All Night ทางสายตาเหล่านี้ล้วนทำให้เมตัล

เฮดในบ้านเราต่างได้รู้จักกับ Tankard เป็นอย่างดี อีกทั้งยังหลงใหลติดใจแธรชเมตัลบ้าเบียร์วงนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เสมือนกับเป็นทาง

ลัด โดยที่ไม่ต้องเริ่มฟังผลงานของพวกเขามาตั้งแต่อัลบัมแรก

อย่างไรก็ตาม ความนิยมของ Tankard ก็มีอยู่ในระดับหนึ่งนะครับ จำกัดเพียงแค่เฉพาะกลุ่มจริงๆ ก่อนหน้านี้หากคิดว่าสักวันจะได้เจอตัวเป็นๆ

ของวง ก็คงจะเป็นเรื่องที่อยู่ในจินตนาการไกลเกินฝัน เพราะแม้คุณจะฟังวงนี้มาสักกี่ปี มีผลงานมากเพียงใดจะคลั่งไคล้... คิดถึง... คนึงหา...

หรืออยากดูวงนี้เล่นสดมากแค่ไหน ถ้าวัดความเคลื่อนไหวในแวดวงบ้านเรา จากวัตถุดิบที่มีขาย, สื่อรวมไปถึงจำนวนแฟนเพลงของ Tankard

แล้ว ก็คงยากที่จะสมหวัง ทำได้ดีที่สุดก็คือตามเก็บงานทั้งเก่าและใหม่ที่ขาดอยู่อย่างเงียบๆ นั่นก็ถือว่าเป็นการจงรักต่อวงอย่างเป็นที่สุด

แล้ว ซึ่งก็คงจะแตกต่างกับทางยุโรปหรือในเยอรมนี ที่ข่าวคราวของ Tankard ไม่เคยหยุดนิ่ง พวกเขามีผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ และ

ยังได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นเฉพาะตัวที่ยากจะหาใครมาเทียบ ถ้าเราสังเกตหรือฟังเพลงของวงนี้ดีๆ ก็จะพบว่านอกจากแธรช

เมตัลแล้ว มันยังเจือไว้ด้วยสไตล์ดนตรีที่หลากหลาย มีทั้งพังก์, ครอสโอเวอร์ไปยันสปีด เสียงร้องของทุกเพลงเร้าใจ พอๆ กับริฟฟ์กีตาร์ขยี้

อารมณ์ จังหวะที่ชวนโยกตลอดนั้น อาจทำให้หัวสมองมึนตื้บเหมือนเพิ่งซดแอลกอฮอล์ดีกรีร้อนแรงมาเป็นโหล โดยเฉพาะเนื้อหาที่ครุกรุ่นไป

ด้วยฟองเบียร์ชนิดล้นทะลัก จนถึงอัลบัมล่าสุดอย่าง Vol (I)ume 14 ที่เพิ่งออกมาในปี 2010 นั้น ทางวงก็ยังรักษามาตรฐานของคุณภาพ...

เอกลักษณ์ไว้อย่างคงเส้นคงวา ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ Tankard ทั้งพลัง...ความบ้าบิ่น...ความสนุกสนานยังคงอัดแน่นอยู่ทุกอณู นอกจากนี้ผล

งานเก่าๆไม่ว่าจะเป็น Zombie Attack, Chemical Invasion, The Morning After, etc. ก็ยังคงขายได้อย่างเป็นล่ำเป็นสันจนถึงทุกวันนี้

และสำหรับเหล่าไวนิลคอลเลกเตอร์ด้วยแล้ว คงไม่มีอะไรจะสะใจไปกว่าการได้ตามเก็บผลงานที่ไม่เคยถูกผลิตเป็นแผ่นเสียงมาก่อน อาทิ

Disco Destroyer’98, Kings of Beer’00, B-Day’02, Beast of Bourbon’04, The Beauty and the Beer’06 โดยสังกัด High Roller

Recs. (เตรียมจะนำงานเดโม Alcoholic Metal มาออกปลายเดือนพฤษภาคมนี้)

ขณะที่บ้านเราเอง ก่อนจะมีคอนเสิร์ตในอีกไม่กี่อึดใจนี้ Triple Six ซึ่งเป็นผู้ติดต่อวงและจัดงาน ยังได้สิทธิ์นำผลงานรวมเพลงชุด Best Case

Scenario: 25 Years in Beers จากปี’07 มาออกเป็นเทปอีกครั้ง นอกจากมันจะเป็นการชิมลางได้แล้ว ยังถือว่าทำออกมาได้อย่างถูกที่ถูก

เวลา เติมเต็มในสิ่งที่เหล่าสาวกเมตัลรุ่นใหม่ๆในบ้านเราขาดหายไป นั่นก็คือการได้ทำความรู้จักกับสุดยอดเยอรมันแธรชวงนี้ดียิ่งขึ้น เพราะ

ส่วนตัวแล้วคิดว่าเพลงจากอัลบัมนี้เกินครึ่ง ต้องถูกนำมาเล่นในคอนเสิร์ตด้วยอย่างแน่นอน การคาดหวังก็คงมีได้เพียงเท่านี้จริงๆ นะครับ

สำหรับผมแล้วความสมหวังที่จะได้สัมผัสกับวงบนเวทีจริงนั้นเป็นเรื่องใหญ่กว่ามาก... การได้ดูวงที่เราชื่นชอบเล่นสดอยู่ตรงหน้า ถือเป็น

ภารกิจสูงสุดของการฟังเพลงเมตัล มันยิ่งใหญ่กว่าการแค่ดูยูทูปหรือดีวีดีแบบเปรียบกันไม่ได้ ความฝันที่ไม่เคยคาด... ความคิดถึงที่ไม่มี

จุดจบ กำลังจะถึงวันสิ้นสุด! อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆเหลือเกิน วันที่ผมและใครอีกหลายคนคงหยุดคิดถึง Tankard เสียที

สุดท้าย...ผมเชื่อเหลือเกินว่า คอนเสิร์ตของ Tankard ในครั้งนี้ ไม่ว่ามันจะจบลงด้วยเวลาโชว์มากน้อยแค่ไหน มีเพลงใดบ้าง หรือมีจำนวน

คนดูเท่าไหร่ ก็คงต้องทิ้งความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนเอาไว้อย่างแน่นอน หลายคนคงเข้าใจได้ถ่องแท้ในวันนั้น ว่าทำไมชื่อของ Tankard

ยังอยู่ และมีผลงานจนถึงทุกวันนี้... คงเข้าใจว่าทำไมถึงพลาดงานนี้ไม่ได้... และบางทีการหยุดคิดถึงเมื่อได้เจอ... อาจผันกลายเป็นความ

คิดถึงในสถานะใหม่... คิดถึงกันในความรู้สึก... ประทับใจไปตลอดกาล